Father’s
Day (June 21,
2015) ปีนี้ครอบครัวของเราและพ่อแม่สามีได้มีโอกาสได้เที่ยวที่
Ste.
Genevieve ซึ่งเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของรัฐ
Missouri ครั้งแรกแมรี่
น้องสาวคนรองของคีธที่อยู่ St. Louis เธอตั้งใจจะมาเยี่ยมพ่อที่ Cape
Girardeau แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ
นัดหมายให้พวกเราไปเจอกันที่ Ste. Genevieve ทีแรกเราก็สงสัยว่าทำไมไม่มาที่บ้าน และทำไมต้องเป็นที่เมือง Ste. Genevieve แต่คีธก็ไม่ได้ถามเหตุผลที่เธอเปลี่ยนใจ
ดังนั้นเราจึงเข้าเน็ท search หาชื่อเมืองเพื่อดูระยะทาง ได้พบข้อมูลขับรถจากบ้านเรา ไป 55.4 ไมล์ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ข้อมูลอื่น ๆ
ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ทำให้คาดเดาว่าแมรี่น่าจะอยากใช้เวลากับพ่อแม่ข้างนอกบ้านเพื่อเที่ยวชมเมือง
กินอาหารด้วยกัน และพูดคุยกัน และที่สำคัญ ไม่ต้องขับรถไกลถึง 113 ไมล์ สองชั่วโมง ไปกลับสี่ชั่วโมง นั่นเรารู้รสชาติดีเพราะจำเป็นต้อง
ไป-กลับ มา 3 ครั้งแล้ว แม้นั่งเฉยก็ยังเพลีย!
เราสองคนออกจากบ้านตั้งแต่แปดโมงครึ่ง คีธต้องขับรถไปที่บ้านพ่อแม่ก่อน
เพื่อเปลี่ยนเอาเชพโรเล็ท ขับไป มัม-แด๊ด นั่งตอนหลัง เจ้าโทบี้ที่น่าสงสารต้องอยู่โยงเฝ้าบ้านเพียงลำพัง
มัมเปิดแอร์ทิ้งไว้ด้วยเกรงว่ามันจะร้อน) มัมเตรียมขวดน้ำดื่มบรรจุไว้ในกระติกน้ำแข็ง และเผื่อเราสองคนด้วย
พร้อมของว่างที่เธอโปรดปรานคือ พีนัทแครกเกอร์ ซึ่งมาชนกับที่เราก็เตรียมมาให้เธอเหมือนกัน
แต่เครื่องดื่มของเราเป็นโค้กขวดแช่เย็นในกระติกน้ำแข็ง.....
ดูไปดูมาเหมือนพวกเรากำลังจะไป ปิกนิก ( :
คีธขับรถจาก Cape Girardeau ใช้เส้นทาง I-55 North เมื่อถึง Exit 150 ก็แยกขวา แต่พบว่าถนนหลักถูกบล็อคและกำลังซ่อม เราจึงต้องวกกลับและเลี่ยงไปใช้เส้นทางเล็ก
ๆ ที่ดูเหมือนนำพวกเราเข้าไปในป่า ด้วยเกรงว่าคีธจะหลงทางเสียเวลา เราจึงเปิดใช้ Navigator มือถือของคีธแต่เขาไม่ได้ติดตั้งแอปฯเสียงนำทางเรา
จึงทำหน้าที่แทนคอยบอกว่าเหลือระยะทางกี่ไมล์ ต้องเลี้ยวซ้ายหรือขวา แต่ก็ผิดพลาดเพราะตาเรามองเห็นเส้นสีฟ้าเลี้ยวไปทางขวาเมื่อถึงแยก
แต่ปากพูดว่า “ที่รักเลี้ยวซ้ายข้างหน้า” พอสามีเลี้ยวซ้ายเราก็ร้องเสียงหลง
บอกว่าไม่ใช่ทางนี้ ต้องไปทางนั้น.....นั่นหละ เรื่องซ้ายกับขวานี่ชอบพูดกลับบ่อยมาก......ขับไปประมาณยี่สิบนาทีก็เข้าสู่ตัวเมืองใช้เวลารวมประมาณหนึ่งชั่วโมง......สิ่งแรกที่แลเห็น
คือ ยอดโบสถ์ที่สวยสง่างาม มือควานหากล้อง ตาก็จับจ้องที่โบสถ์....ถ่ายรูปไปตลอดเวลาที่รถแล่นอยู่จนกระทั่งรถเข้าไปจอดในลานจอดรถฝั่งตรงข้ามด้านข้างของโบสถ์
เราจูงมือมัมข้ามถนนสองเลน และมายืนพักตรงหลักป้ายชื่อพิพิธภัณฑ์ “The Ste.
Genevieve Museum”
ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับด้านหน้าของโบสถ์คาทอลิก Ste. Genevieve Catholic Church......
แมรี่นัดหมายว่าจะมาเจอกันที่นี่ แต่เธอยังมาไม่ถึง
เราจึงชวนมัม&แด๊ดไปถ่ายรูปที่ด้านข้างและด้านหลังของพิพิธภัณฑ์ฯ
เพื่อให้เห็นยอดโบสถ์ ภาพที่ได้จึงเล็กมาก.....ไม่นานนัก แมรี่และคริสต้าลูกสาวของเธอก็มาถึง
พวกเราจึงพากันกันเข้าไปชมในพิพิธภัณฑ์ก่อนเป็นอันดับแรก
ลงชื่อเยี่ยมชม |
ในนั้นไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคน มีแต่เจ้าหน้าที่ประจำ
ซึ่งเธอก็กล่าวทักทายต้อนรับ และเริ่มแนะนำประวัติความเป็นของเมืองและสถานที่แห่งนี้
เรานั้นได้ยินแต่เสียงของเธอแต่ไม่ได้จับใจความทั้งหมด เพราะสนใจแต่จะถ่ายรูป....
ถ่ายทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า (แต่ว่าไม่สามารถลงภาพให้ชมได้ทั้งหมดนะคะ)
Ste. Genevieve มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ.....ในยุคล่าอาณานิคม ทั้ง
อังกฤษ ฝรั่งเสศ สเปน ปรัสเซีย ก็มีการอพยพถิ่นฐานมายังตั้งรกรากที่ดินแดนโลกใหม่นี้
มากขึ้น ในปี 1735 ชาว ฝรั่งเศส-แคนนาดา อพยพมาตั้งรกราก ณ ริมฝั่งด้านตะวันตกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ ประกอบอาชีพ
ผลิตเกลือ ทำเหมือง ดักสัตว์เพื่อเอาหนังและขน ต่อมาเกิดสงครามต่อเนื่อง 7 ปี จนในปี 1762
ต้องยกดินแดนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำให้แก่ สเปน หลังจากนั้นในปี 1785 เกิดน้ำท่วมใหญ่ พวกเขาต้องย้ายถิ่นมาอยู่ที่ใหม่ซึ่งภายหลังได้ชื่อว่า
Ste.
Genevieve ในปี 1800 ได้ดินแดนคืนจากสเปน แต่ต่อมาก็ต้องขายให้แก่ Louisiana และสุดท้ายพวกเขาก็กลายเป็นพลเมืองของ “ประเทศสหรัฐอเมริกา” Ste. Genevieve จึงกลายเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของรัฐมิสซูรี....เมืองที่ผู้คนสามารถค้นพบสถาปัตยกรรมโคโลเนียลฝรั่งเศส
ศตวรรษที่ 18 ที่หาดูได้ยาก.....ได้แก่ French Colonial Houses 3 หลัง ที่ยังคงได้รับการรักษาและบูรณะไว้เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ (เขียนไว้เป็นตอนที่ 3)
The Ste. Genevieve Museum เปิดให้ประชาชนเข้าชมครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม
ปี 1935 เป็นพิพิธภัณฑ์แบบผสมผสาน (eclectic museum) ที่รวบรวมและจัดแสดง
“มรดกทางประวัติศาสตร์ยุคสองร้อยปี (ช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ถึง 19) ได้แก่ ประดิษฐ์กรรมด้านวิศวกรรม เครื่องประดับเครื่องใช้ไม้สอยในการดำรงชีพ
เครื่องเรือน เครื่องมือก่อสร้าง หนังสือโบราณ ฯลฯ อันแสดงให้เห็นร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองนับแต่ที่ชาวฝรั่งเศสได้ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกราก
สร้างบ้านแปลงเมืองแห่งนี้ และยังเป็นที่แสดงวัสดุสิ่งของ ๆ ชนพื้นเมืองอินเดียนอเมริกันยุคก่อนประวัติศาสตร์
ที่ขุดพบในเมืองนี้อีกด้วย
ผ้าลูกไม้ทอมือ สวยงาม เหลือเชื่อ! |
Mississippian Pottery
The
early Mississippian period 900‑1500 A.D. Commonly tempered using muscle shells
from the Mississippi river. They range from simple to beautifully designed.
|
ปัจจุบันเปิดบริการทุกวัน
นักท่องเที่ยวต้องซื้อบัตรเข้าชมในราคาเบา ๆ
แต่ชมฟรีในโอกาสพิเศษ เช่น Father’s
Day ภายในยังจำหน่ายของที่ระลึกที่น่าสนใจสำหรับเป็นของฝากอีกด้วย
เมื่อกลับออกมาข้างนอก
ทุกคนควักสูบบุหรี่ออกมาสูบที่หน้าพิพิธภัณฑ์ เราเป็น แพ้ควันบุหรี่
ต้องเดินเตร็ดเตร่ออกไปถ่ายรูปอยู่ห่าง ๆ......
หลังจาก “รมควัน” กันเสร็จคนละมวน แมรี่ก็พาพวกเราข้ามถนน Market St ด้านข้างของพิพิธภัณฑ์ไปที่ร้านอาหารตรงข้ามนั่นเอง
หน้าร้านมีม้านั่งสองฝั่งซ้ายขวา ปลูกเฟิร์นใบมะขามพุ่มใหญ่เขียวสดใสไว้ข้าง ๆ
ม้านั่ง ลูกค้าบางคนก็ทิ้งบุหรี่ ที่ดับแล้วแต่ไหม้ไปนิดหน่อย ไว้ที่กระถางเฟิร์น
(ขี้เกียจแม้แต่จะเดินเอาไปยัดใส่ที่ทิ้งกันบุหรี่ ห่างแค่สามก้าว)
มองเข้าไปด้านใน มีผ้าม่านลูกไม้สีขาวนวลน่ารัก เมื่อเข้าไปข้างใน
อาคารนี้สร้างด้วยไม้แบบเก่าแก่ เพดานสูง ผนังตกแต่งด้วยภาพมากมาย ด้านขวาเป็นเคาน์เตอร์ตามแนวยาวขนานไปกับผนัง
มีเก้าอี้บาร์หน้าเคาน์เตอร์สี่ห้าที่ ด้านหลังเต็มไปด้วยเครื่องดื่มนานาสารพัน
เข้าใจว่าเปิดบริการถึงกลางคืนสำหรับนักดื่มด้วย ด้านซ้ายวางโต๊ะอาหาร ขนาดสี่ที่
และหกที่ รวมแล้วประมาณแปดโต๊ะ มีพนักงานสาว ๆ คอยให้บริการ สามสาว ตอนเราเข้าไปมีคนแค่โต๊ะเดียวสองคนรออาหารอยู่
ช่วงนี้ครอบครัว Fry ใช้เวลาพูดคุยกันรออาหาร เวลาผ่านไป
ผู้คนก็เริ่มทยอยเข้านั่งจนเต็มหมดทุกโต๊ะ เราคิดในใจว่า “ฉันมายี่สิบนาทีแล้วยังไม่เห็นอาหารออกมาสักจาน
แล้วพวกคุณจะได้กินตอนไหนกันล่ะนี่?”
ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม
และคอฟฟี่ช็อป ในย่านใจกลางเมือง มีประมาณ 9 ร้าน และที่กระจายอยู่ใน Ste. Genevieve
อีก 15 แห่ง.....มีร้านอาหารที่ได้รับรางวัลจากการประกวดหลายแห่งให้เลือกลิ้มลอง.....สักพักอาหารก็ออกมาเสิร์ฟพร้อมกันทั้ง 6 ที่......อ้อ!
แบบนี้เองที่ทำให้ช้า ทำเสร็จทั้งโต๊ะแล้วเสิร์ฟทีเดียว กินพร้อม ๆ กัน.....ถ้าเป็นที่เมืองไทยจานไหนเสร็จก็ทยอยยกมาเสิร์ฟเลย.....มื้อนี้แมรี่รับเป็นเจ้ามือ
แด๊ดควักแบ้งค์ $1 ออกมาวางบนโต๊ะ 4 ใบสำหรับทิปสาวเสิร์ฟ....เห็นแล้วอยากแปลงร่างเป็นสาวเสิร์ฟในบัดนาว!!!
คลิกอ่านต่อ......
Part 2 Catholic Churc of Ste. Genevieve - Visited Ste. Genevieve, Missouri’s oldest town
Thanks for visit!
0 ความคิดเห็น :
Post a Comment